Author : admin
Share

การอยู่ไฟหลังคลอด
คือกระบวนการดูแลและฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่หลังคลอดบุตร โดยใช้ศาสตร์แพทย์แผนไทย ที่เน้นการให้ความร้อนกับร่างกาย เพื่อปรับสมดุลธาตุ ขับของเสีย ลดอาการปวดเมื่อยและช่วยให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพปกติอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดประสงค์ของการอยู่ไฟ
- ขับน้ำคาวปลา
- ลดอาการหนาวสะท้านหรือหนาวในกระดูก
- บรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อ
- กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- กระชับมดลูกและกล้ามเนื้อหน้าท้อง
- ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและจิตใจโดยรวม
การอยู่ไฟเหมาะกับใคร
- คุณแม่หลังคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอดก็ทำได้
- ผู้ที่รู้สึก ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- มีอาการ หนาวใน หนาวกระดูก
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีกลิ่น มีตกขาวที่ผิดปกติ
- มีอาการปวดหน่วงมดลูกหรือเริ่มกั้นปัสสาวะไม่อยู่
- มีการปวดรองช้ำที่ฝ่าเท้าโดยไม่ทราบสาเหต
- ต้องการฟื้นฟูร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ
อยู่ไฟได้เมื่อไหร่
- คลอดธรรมชาติ: หลังคลอดประมาณ 7–14 วัน
- คลอดผ่าตัด: ควรรอให้แผลแห้งดี ประมาณ 30–45 วัน และอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดีของการอยู่ไฟหลังคลอด
- ช่วยขับน้ำคาวปลา ช่วยให้ของเสียที่ตกค้างในมดลูกออกได้หมด ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
- ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ความร้อนจากการอยู่ไฟช่วยกระตุ้นให้มดลูกหดตัวเข้าสู่สภาพปกติเร็วขึ้น
- ลดอาการปวดเมื่อย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดหลัง ปวดเอว หรือข้อต่าง ๆ
- กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ลดอาการหนาวในกระดูกหรือมือเท้าเย็น
- ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน การอบสมุนไพรและความร้อนช่วยให้เหงื่อออก ขับของเสีย เผาผลาญไขมันที่สะสมช่วงตั้งครรภ์
- ผิวพรรณสดใสขึ้น การขับเหงื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกระชับขึ้น
- ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว เพิ่มพลังงาน กระตุ้นระบบภายใน ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจโดยรวม
- ลดความเครียดและอารมณ์แปรปรวน กลิ่นสมุนไพรและการผ่อนคลายจากการดูแลช่วยให้จิตใจสงบขึ้น
หากไม่ได้อยู่ไฟหลังคลอด
ตามศาสตร์แพทย์แผนไทย อาจทำให้คุณแม่มีอาการทางร่างกายและจิตใจ ดังนี้
- ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี การอยู่ไฟช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ถ้าไม่ได้ทำ อาจเกิดอาการหนาวในกระดูก หรือมีเลือดคั่งตกค้าง
- น้ำคาวปลาออกไม่หมด น้ำคาวปลาเป็นของเสียที่ร่างกายต้องขับออกหลังคลอด หากระบายไม่หมด อาจทำให้เกิดการอักเสบภายในหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ปวดเมื่อยเรื้อรัง คุณแม่ที่ไม่ได้อยู่ไฟอาจมีอาการปวดหลัง ปวดเอว หรือข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าปกติ เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้รับการฟื้นฟูไม่เพียงพอ
- มดลูกไม่เข้าอู่ดี การอยู่ไฟช่วยให้มดลูกหดตัวและกลับสู่สภาพปกติได้เร็ว หากไม่ได้ทำ อาจทำให้มดลูกเข้าอู่ช้า หรือมีอาการเจ็บหน่วงในช่องท้อง
- ร่างกายฟื้นตัวช้า เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือรู้สึกไม่สดชื่นแม้เวลาผ่านไปนาน
- น้ำนมไหลไม่ดี ความร้อนจากการอยู่ไฟช่วยกระตุ้นการผลิตและการไหลของน้ำนม คุณแม่ที่ไม่ได้อยู่ไฟอาจมีปัญหาน้ำนมไม่เพียงพอ
- ส่งผลต่อสุขภาพจิต คุณแม่บางรายอาจมีภาวะเครียด วิตก หรือซึมเศร้าหลังคลอด เพราะร่างกายไม่สมดุลและพักฟื้นไม่เพียงพอ
อาการเรื้อรังที่มักพบได้
- ปวดเมื่อยเรื้อรัง โดยเฉพาะ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อ เกิดจากกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ฟื้นตัว และระบบเลือดลมไหลเวียนไม่ดี
- หนาวในกระดูก รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ มือเท้าเย็น แม้อยู่ในอากาศปกติ เป็นอาการของ “ธาตุไฟในร่างกายพร่อง” ตามแนวแผนไทย
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น มาน้อยไป มากไป หรือเว้นช่วงนาน เกิดจากระบบภายในยังไม่สมดุล หรือมีเลือดคั่ง
- น้ำหนักไม่ลด หน้าท้องไม่ยุบ ร่างกายยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ ระบบเผาผลาญยังทำงานไม่เต็มที่
- ผิวพรรณหมอง ไม่สดใส เลือดลมไม่ดี ทำให้ผิวซีด หน้าไม่เปล่งปลั่ง
- นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน ร่างกายที่ไม่สมดุลส่งผลต่อจิตใจ อารมณ์แปรปรวนง่าย หรือมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
- รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียเรื้อรัง เหมือนร่างกายไม่สดชื่น ไม่มีกำลัง แม้จะพักผ่อนมากแค่ไหน
อยู่ไฟย้อนหลังได้ไหม
สามารถอยู่ได้ สำหรับคุณแม่ที่คลอดลูกมานานแล้ว (แม้จะผ่านไปหลายเดือนหรือเป็นปี) หากยังมีอาการเรื้อรัง เช่น ปวดเมื่อย หนาวใน ประจำเดือนผิดปกติ หรือรู้สึกไม่ฟื้นตัวดี ก็สามารถกลับมาอยู่ไฟย้อนหลัง ได้โดยให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินก่อนเริ่มการดูแล
สรุปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ไฟทันทีหลังคลอดหรือการกลับมาอยู่ไฟภายหลัง สิ่งสำคัญคือการ ช่วยปรับสมดุลของร่างกายและตระหนักว่าการดูแลสุขภาพหลังคลอดไม่มีคำว่าสายเกินไป การเริ่มต้นดูแลสุขภาพในวันนี้ย่อมดีกว่าไม่ได้ทำเลย แม้ว่าประสิทธิภาพอาจไม่เทียบเท่ากับการอยู่ไฟทันทีหลังคลอด แต่ประโยชน์ที่ได้รับยังคงมีคุณค่าต่อสุขภาพของคุณแม่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต






